ความจริงที่คุณต้องรู้: น้ำมันหอมระเหยแท้ VS น้ำมันหอมสังเคราะห์
- Plute Moungplub
- 26 ธ.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
ในโลกของการบำบัดด้วยกลิ่นหอม หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมน้ำมันหอมระเหยแท้ถึงมีราคาสูงกว่าน้ำมันหอมสังเคราะห์มากนัก มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน
เรื่องของกลิ่น: ไม่ใช่แค่ความหอม
แม้น้ำมันหอมสังเคราะห์อาจมีกลิ่นที่หอมถูกใจผู้ใช้มากกว่า แต่สิ่งที่คุณได้รับคือเพียงความพึงพอใจจากกลิ่นหอมเท่านั้น คุณจะไม่ได้รับประโยชน์ในแง่การบำบัดเหมือนการใช้น้ำมันหอมระเหยแท้จากธรรมชาติ
เรื่องของความปลอดภัย: สิ่งที่มองไม่เห็น
น้ำมันหอมสังเคราะห์ผลิตจากสารเคมี ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจหากใช้เป็นเวลานาน ในทางตรงกันข้าม น้ำมันหอมระเหยแท้จากธรรมชาติปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่า
ความแตกต่างด้านราคา: กรณีศึกษาที่น่าสนใจ
มะลิไทย (Jasmine)
น้ำมันหอมระเหยแท้: ราคาหลักแสนบาทต่อลิตร
น้ำมันหอมสังเคราะห์: ไม่เกิน 5,000 บาทต่อลิตร
กรณีดอกไม้ไทย
เกือบทั้งหมดที่พบในตลาดเป็นกลิ่นสังเคราะห์ เนื่องจากต้นทุนการปลูกและสกัดน้ำมันหอมระเหยแท้สูงมาก
ทำไมน้ำมันหอมระเหยแท้ถึงมีราคาแตกต่างกัน?
Melissa
ราคา: 200,000-275,000 บาทต่อลิตร
เหตุผล: ต้องใช้ใบ Melissa มากถึง 6 ตันเพื่อสกัดน้ำมัน 1 ลิตร
กุหลาบดามัส
ราคา: 850,000 บาทต่อลิตร
เหตุผล: ต้องใช้ดอกกุหลาบถึง 3 ตันเพื่อสกัดน้ำมัน 1 ลิตร
น้ำมันหอมระเหยราคาประหยัด
Palmarosa, Lemongrass และ Citronella มีราคาไม่สูงมาก เพราะใช้วัตถุดิบในการสกัดน้อยกว่า
ระวัง! การปลอมปน
มีผู้ค้าบางรายใช้วิธีผสมน้ำมันหอมระเหยราคาถูกเพื่อเลียนแบบกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยราคาแพง เช่น:
ผสม Lemongrass กับ Citronella เพื่อเลียนแบบกลิ่น Melissa
ผสม Palmarosa กับ Geranium เพื่อเลียนแบบกลิ่นกุหลาบ
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ
การเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยควรคำนึงถึง:
วัตถุประสงค์การใช้งาน: ต้องการเพียงกลิ่นหอมหรือต้องการผลในการบำบัด
ความปลอดภัยในระยะยาว
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ
ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกซื้อจากผู้ขายที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อการใช้งาน